วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ Datdaruni School


ประวัติความเป็นมา

  • โรงเรียนดัดดรุณี ได้รับพระราชทานนามโรงเรียน “ดัดดรุณี” จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สร้างเมื่อ พ.ศ. 2458 ด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน ทำพิธีเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458
  • ในครั้งประเทศไทยแบ่งการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็นมณฑล เรียกว่า โรงเรียนสตรีประจำมณฑลปาจิณ “ดัดดรุณี” จัดเป็นโรงเรียนตัวอย่างประจำมณฑลปราจีนบุรีด้วยประสงค์จะจัดการศึกษา การอบรมสั่งสอนให้เป็นตัวอย่างแก่จังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในเขตมณฑลเดียวกัน ครั้งแรกเปิดรับนักเรียนทั้งหญิง ชาย ตั้งแต่ชั้นมูลจนถึงชั้นมัธยมศึกษา ในส่วนของนักเรียนชายเมื่อเรียนจบชั้นประโยคประถมศึกษาแล้ว ถ้าประสงค์จะเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาก็ส่งต่อให้ไปเรียนในโรงเรียนชาย คือ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์)
  • เมื่อ พ.ศ. 2468 กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าโรงเรียนประชาบาลที่จัดตั้งตามชนบทต่าง ๆ ขาดครูที่จะออกไปทำการอบรมสั่งสอนนักเรียน และโรงเรียนบางแห่งก็เป็นที่กันดาร เพื่อให้ได้ครูออกไปทำการสอนตามโรงเรียนประชาบาลต่าง ๆ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูขึ้นอีกแผนกหนึ่งในโรงเรียนสตรีประจำมณฑลปาจิณ “ดัดดรุณี” รับนักเรียนที่สำเร็จชั้นประถม 3 และประถม 4 เข้าเป็นนักเรียนฝึกหัดครูหลักสูตร 3 ปี เมื่อเรียนจบหลักสูตรจะส่งออกไปเป็นครูตามภูมิลำเนาเดิม เรียกว่าครูประกาศนียบัตรจังหวัด หรือเรียกว่า ครูว. จัดการศึกษาจนถึง พ.ศ. 2485 โรงเรียนฝึกหัดครูจึงแยกออกไปเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูฉะเชิงเทรา (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์)
  • พ.ศ. 2483 รัฐบาลเปิดโรงเรียนประชาบาลแพร่หลายออกไปในชนบท และเอกชนตั้งโรงเรียนราษฎร์ขึ้น โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา “ดัดดรุณี” มีจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น สถานที่ คับแคบจึงยุบชั้นประถมศึกษา เริ่มรับเฉพาะนักเรียนหญิงเข้าเรียนชั้นมัธยม 1 เป็นต้นไปจนถึงชั้นมัธยม 6
  • พ.ศ. 2487 – 2495 จัดตั้งโรงเรียนอนุบาลขึ้นอีกแผนกหนึ่ง ซึ่งภายหลังแยกไปเป็นโรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ในปัจจุบันนี้
  • พ.ศ. 2496 เข้าร่วมกับองค์การปรับปรุงส่งเสริมการศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยในปี พ.ศ. 2494 องค์การสหประชาชาติร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ประสงค์จะปรับปรุงส่งเสริมการศึกษาของประชาชนให้มีมาตรฐานสูงขึ้น จึงเลือกให้จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นศูนย์กลางการปรับปรุงการศึกษาเพื่อเป็นตัวอย่างแก่จังหวัดอื่น ๆ เรียกว่า องค์การปรับปรุงส่งเสริมการศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการช่วยเหลือในด้านการเงิน การแนะแนว การปรับปรุงวิธีการสอนในวิชาการต่าง ๆ อุปกรณ์การสอน และการอนามัยจากองค์การนี้เป็นอันมากทำให้การจัดการศึกษาเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
  • พ.ศ. 2502 องค์การปรับปรุงส่งเสริมการศึกษาได้สิ้นสุดลง เริ่มมีโครงการพัฒนาการศึกษา (ค.พ.ศ.) เข้ามาแทนที่โดยมีวัตถุประสงค์เดียวกับโครงการปรับปรุงส่งเสริมการศึกษา ดำเนินการจัด การศึกษาชั้นมัธยม 1 ถึงมัธยม 6 และสิ้นสุดโครงการพัฒนาการศึกษาในปี พ.ศ. 2505
  • พ.ศ. 2503 กระทรวงศึกษาธิการได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาจากแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2494 ปฏิรูประบบโรงเรียนขยายการศึกษาออกไปในชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 โรงเรียนสตรีฉะเชิงเทรา “ดัดดรุณี” จึงยุบชั้นมัธยม 1 ถึงมัธยม 3 (ม.1 – ม.3) เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.ศ. 1 – ม.ศ.5)
  • พ.ศ. 2506 กระทรวงศึกษาธิการได้อนุญาตให้เปิดสอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.ศ.4) แผนกศิลปะ รับนักเรียนทั้งนักเรียนหญิงและนักเรียนชายเข้าเรียน โรงเรียนสตรีฉะเชิงเทรา “ดัดดรุณี” จึงมีสภาพเป็นโรงเรียนสหศึกษา โดยให้ชื่อว่า “โรงเรียนดัดดรุณี” จนถึงปัจจุบัน
  • พ.ศ. 2513 เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนกวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 ห้อง รับนักเรียนทั้งนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย เช่นเดียวกับแผนกศิลปะ และโรงเรียนดัดดรุณีได้เข้าร่วมอยู่ในโครงการปรับปรุงโรงเรียนมัธยมในชนบท (ค.ม.ช.) รุ่นที่ 7 ได้รับความช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์การสอนวิทยาศาสตร์ คหกรรม ศิลปศึกษา ฯลฯ
  • พ.ศ. 2520 – 2532 จัดการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2520 เปลี่ยนระบบการศึกษาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี มัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี ใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พ.ศ. 2521 หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2524 รับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.ศ. 3) และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ( ม.3) เข้าเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พร้อมกันใน พ.ศ. 2524
  • พ.ศ. 2533 ใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พ.ศ. 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) และหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2524 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) กระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ศ. 2543 เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ รุ่นที่ 1 โดยใช้เงินงบประมาณและเงินกู้ธนาคารโลก (โครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษา ระยะที่ 1 พ.ศ. 2545 – 2548 หรือ โครงการเงินกู้ธนาคารโลก) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้มีคุณภาพสูงขึ้น
  • พ.ศ. 2544 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 โรงเรียนดัดดรุณี เข้าร่วมโครงการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ดำเนินการร่างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนดัดดรุณี
  • พ.ศ. 2545 โรงเรียนดัดดรุณี ประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนดัดดรุณี ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 จัดการเรียนรู้ในช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
  • พ.ศ. 2547 ใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนดัดดรุณี ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2547) จัดการเรียนรู้ในช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6
  • พ.ศ. 2550 โรงเรียนได้จัดห้องเรียนพิเศษ IEP (Intensive English Program) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในกลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ระดับชั้นละ 1 ห้องเรียน
  • โรงเรียนดัดดรุณีจึงได้รับการสนับสนุนด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การเงิน วัสดุ ครุภัณฑ์ ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก มีผลให้การศึกษาเจริญก้าวหน้าเป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชน และสถานศึกษาอื่น ๆ เสมอมา




เอกสารอ้างอิง

  1. กระทรวงศึกษาธิการ. (2533). 98 ปี กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา.
  2. การปรับปรุงการศึกษา โรงเรียนสตรีฉะเชิงเทรา “ดัดดรุณี” 2496 - 2502. ( 2503). ธนบุรี : โรงเรียนการช่างวุฒิศึกษา (แผนกการพิมพ์).
  3. คู่มือครู โรงเรียนดัดดรุณี จังหวัดฉะเชิงเทรา. (ม.ป.ป.). ฉะเชิงเทรา : โรงเรียนดัดดรุณี.
  4. ที่ระลึกงานครบรอบ 75 ปี โรงเรียนดัดดรุณี. ( 2533). ฉะเชิงเทรา : โรงเรียนดัดดรุณี.

วิสัยทัศน์


โรงเรียนดัดดรุณี เป็นสถานศึกษาที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียน ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมไทย มีความเป็นเลิศทางวิชาการสู่มาตรฐานสากล มีความสามารถในการสื่อสารได้อย่างน้อย ๒ ภาษา มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์และยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติรย์ทรงเป็นประมุข

พันธกิจ

  1. เรายึดมั่นว่า ผู้เรียนคือความหวังของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู-อาจารย์ และเป็นอนาคต ของประเทศชาติ เรามุ่งมั่นให้ผู้จบการศึกษาทุกคนมีคุณภาพเต็มศักยภาพ มีความเป็นเลิศทางวิชาการสู่มาตรฐานสากล มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา และใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพ ปลูกฝังจิตสำนึกของการเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม รักษาวัฒนธรรมไทย มีสุขภาพจิตดีและมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
  2. เรามีหน้าที่สำคัญที่จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนทุกคนจบการศึกษาไปพร้อมกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้วยการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยพันธะอันยิ่งใหญ่นี้ ต้องเกิดจากการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ของครูทุกคน ผู้บริหารทุกฝ่าย คณะกรรมการบริหารโรงเรียนทุกคณะ รวมทั้งการได้รับความร่วมมือจาก ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วน

เป้าประสงค์


“ผู้ที่จบการศึกษาทุกคนมีทักษะความรู้ทางวิชาการ มีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งด้านร่างกายจิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา และมีความทันสมัยบนพื้นฐานของคุณธรรมและ วัฒนธรรมไทย

เป้าหมายของโรงเรียน
    ด้านผู้เรียน
  1. ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์
  2. ผู้เรียนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
  3. ผู้เรียนมีทักษะในการทำงาน รักการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมีเจตคติดีต่ออาชีพสุจริต
  4. ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์
  5. ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร
  6. ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง
  7. ผู้เรียนมีสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี
  8. ผู้เรียนมีสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา

    ด้านการเรียนการสอน
  9. ครูมีคุณธรรม จริยธรรม มีวุฒิ / ความรู้ความสามารถตรงกับงานที่รับผิดชอบ หมั่นพัฒนาตนเอง เข้ากับชุมชนได้ดี และมีครูพอเพียง
  10. ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ และเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ

    ด้านการบริหารและการจัดการศึกษา
  11. ผู้บริหารมีคุณธรรม จริยธรรม มีภาวะผู้นำ และมีความสามารถในการบริหารจัดการศึกษา
  12. สถานศึกษามีการจัดองค์กร โครงสร้าง ระบบการบริหารงานและพัฒนาองค์กร อย่างเป็นระบบครบวงจร
  13. สถานศึกษามีการบริหารและจัดการศึกษาโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน
  14. สถานศึกษามีหลักสูตร และกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
  15. สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนอย่างหลากหลาย
  16. สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมและบริการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติ เต็มศักยภาพ
  17. สถานศึกษามีการสนับสนุนและใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาในท้องถิ่น
  18. สถานศึกษามีการร่วมมือกันระหว่างบ้าน องค์กรทางศาสนา สถาบันวิชาการ และองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาวิถีการเรียนรู้ในชุมชน

เครื่องหมาย-สีประจำโรงเรียน


ประกอบด้วยสัญลักษณ์ ตราวชิราวุธเปล่งรัศมี เหนืออักษรย่อ ด.ด. ซึ่งเป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ด้านล่างมีแถบแพรจารึกชื่อโรงเรียนดัดดรุณี


สีประจำโรงเรียน
น้ำเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 6)
สีชมพู หมายถึง ความสวยงาม น่ารัก

ปรัชญา - คำขวัญ - คติพจน์

ปรัชญา
"ประพฤติดี มีวินัย ใฝ่ศึกษา หาความรู้ คู่คุณธรรม"

School Philosophy
" Well behaved disciplinable, enthusiastic investigative and ethical "

คำขวัญ
"ลูกดัดฯ เรียนดี กีฬาเด่น เป็นกุลสตรี มีคุณธรรม"

Ideal
"Our students should be smart, healthy, neat and nice"

คติพจน์
กลยาณการี กลยาณ (ทำดี ได้ดี)

เพลงประจำโรงเรียน


มาร์ชดัดดรุณี คำร้อง / ทำนอง ประยุทธ เรื่องสวัสดิ์


พลิ้ว พลิ้ว ธงชัยที่มีเกียรติอยู่ น้ำเงินชมพูงามเด่นเป็นศักดิ์ศรี โบกสะบัดเฟื่องในไทธาตรี ดัดดรุณีล้ำหน้าใครในฉะเชิงเทรา งามน้ำใจใฝ่ศึกษากล้าฉกาจ ทั้งมรรยาทก็เลอเลิศเฉิดเฉลา แม้นผู้ใดใครหาญมาราญเรา เรารวมเข้าเป็นหมู่สู้จนมรณ์ ขอองค์พระไตรรัตน์อันจรัสหล้า ไท้เทวามาร่วมสโมสร ขอเดชพระพุทธโสธร ประสาทพรให้พวกเราชาวดัดดรุณี ขอเราร่วมใจกันสมานสมัคร ให้เกียรติศักดิ์เกริกไกรไปทุกที่ ขอไกลโศกขอจงสุขสวัสดี ดัดดรุณีมีแต่ ชัยชโย

เพลงอื่นๆ เข้าได้ถึงจาก : http://www.ddn.ac.th/web/?name=song


ผู้อำนวยการ(คนปัจจุบัน)


นางมณฑา สมานบุญ


2 ความคิดเห็น:

  1. ผมฝึกสอนที่โรงเรียนนี้นะครับ..... จะตั้งใจอย่างเต็มที่ สู้ๆๆ

    ตอบลบ